ปัญหาหนังศีรษะ และวิธีการดูแล

โรคของเส้นผมและหนังศีรษะเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย โรคนี้แม้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ก็ทําให้เกิดความไม่มั่นใจและทําให้เสียบุคลิกภาพได้

โรคชันนะตุ หรือโรคเชื้อราที่หนังศีรษะ (Tinea capitis)

เชื้อราบนหนังศีรษะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ชันนะตุ” เป็นการติดเชื้อราที่รากผม เส้นผม และหนังศีรษะ โดยเชื้อราจะทำให้เกิดผื่นวงแหวน มีขอบชัดเจนที่หนังศีรษะ ลักษณะตรงกลางเรียบและขอบนูน การติดเชื้อนี้ส่งผลต่อทั้งหนังศีรษะและเส้นผม ทำให้เกิดอาการคัน ผมร่วงเป็นหย่อมๆ หนังศีรษะลอกหรือที่เรียกว่ารังแค

กลากที่หนังศีรษะเป็นโรคติดเชื้อที่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้จากการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น หวี ผ้าเช็ดตัว หมวก หมอน กลากพบได้มากในวัยเด็ก แต่สามารถแพร่เชื้อสู่คนทุกวัยได้เช่นกัน

อาการ

อาการที่พบบ่อยที่สุดของชันนะตุ คือ คันบนหนังศีรษะ ส่วนของผมอาจแหว่งออก หนังศีรษะเป็นเชื้อรา ทิ้งเป็นสะเก็ดพื้นที่สีแดงหรือไม่มีผมเลย คุณอาจเห็นจุดสีดำที่เส้นผมแตกหัก โดยพื้นที่เหล่านี้เป็นจุดที่เชื้อราที่หัวเจริญเติบโต อาการอื่น ๆ ได้แก่

  • ผมเปราะ แตกหักง่าย
  • เจ็บหนังศีรษะ
  • ต่อมน้ำเหลืองโต
  • มีไข้ต่ำๆ(fever)
  • ในกรณีที่รุนแรงมากขึ้น อาจจะมีอาการบวมที่ Kerion ซึ่งจะมีหนองไหลออกมา โดยสามารถนำไปสู่การจุดหัวล้านถาวรและรอยแผลเป็น

สาเหตุ

  • เกิดจากเชื้อรา Dermatophytes ทำให้เกิดชันนะตุ เชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิตที่เจริญเติบโตบนเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว เช่น เล็บผมและผิวหนังชั้นนอก เชื้อรา Dermatophytes ต้องการความอบอุ่นและความชื้น ดังนั้นจึงเจริญเติบโตได้ดีบนผิวหนังที่มีเหงื่อ แออัด และสุขอนามัยที่ไม่ดี
  • ชันนะตุสามารถติดต่อได้อย่างง่ายดายโดยเฉพาะในเด็กๆ ชันนะตุสามารถติดจากการสัมผัสผิวหนังของผู้ติดเชื้อ เช่น หากใช้หวีร่วมกับที่บุคคลที่ติดเชื้อก็จะมีความเสี่ยง
  • สัตว์เลี้ยงในบ้านเช่น แมวและสุนัข สามารถแพร่กระจายกลากหรือชันนะตุได้เช่นกัน ในขณะที่สัตว์เลี้ยงในฟาร์มเช่นแพะวัวม้าและหมูก็เป็นพาหะได้ อย่างไรก็ตามสัตว์เหล่านี้อาจไม่แสดงอาการของการติดเชื้อ

การรักษา

แพทย์จะให้ผู้ป่วยใช้ยาหรือแชมพูกำจัดเชื้อราบนหนังศีรษะแต่มีผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่

  • ไวต่อแสงแดด
  • อาเจียน(vomit)
  • เมื่อยล้า
  • อ่อนเพลีย
  • เวียนศีรษะ(dizziness)
  • มีอาการแพ้

โรคสะเก็ดเงินที่หนังศีรษะ (scalp psoriasis)

โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคที่ผิวหนังมีการอักเสบแดงลอกของผิวหนังเรื้อรัง พบประมาณร้อยละ 0.3-2 ของประชากรทั่วไป

อาการ

ผื่นมีลักษณะเป็นขุยสะเก็ดสีขาวเงิน แผ่นหนา ขนาดค่อนข้างใหญ่ ติดแน่นกับหนังศีรษะที่มีอาการอักเสบ แดง ขอบเขตชัด ผื่นมักจะเป็นปื้นเลยบริเวณไรผมออกมาส่วนต่างๆ ของใบหน้า หลังหู ต้นคอด้านหลัง บางครั้งพบจุดเลือดออก บางคนจะมีผื่นสะเก็ดเงินบริเวณอื่นของร่างกายด้วย เช่นบริเวณข้อศอก เข่า ลำตัว หลัง หรือสะดือ รวมไปถึงที่เล็บมักพบลักษณะของโรคสะเก็ดเงินร่วมด้วย

สาเหตุ

โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากหลายสาเหตุร่วมกัน ทั้งความผิดปกติของยีน ร่วมกับปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ได้แก่ การบาดเจ็บของผิวหนัง ผิวไหม้แดด การติดเชื้อ ยาบางชนิด รวมไปถึงการดื่มสุรา สูบบุหรี่ ภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน และความเครียดด้วย

การรักษา

ความรุนแรงน้อย สามารถใช้ยาทา ร่วมกับให้แชมพูในกลุ่ม coal tar หรือ antifungal shampoo ร่วมด้วย

ความรุนแรงมาก มักจะต้องให้การรักษาด้วยยารับประทาน หรือยาฉีด ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงและแชมพูมีกลิ่นฉุน

โรคหนังศีรษะอักเสบ

โรคหนังศีรษะอักเสบ คือ โรคผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง ที่เกิดการอักเสบขึ้นบริเวณหนังศีรษะ อาจเกิดจากการอักเสบของผิวหนังเอง หรือเกิดจากการอักเสบของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง

อาการ

อาการของโรคหนังศีรษะอักเสบ พบได้หลายรูปแบบตั้งแต่เป็นน้อยไปจนถึงมาก ขึ้นกับปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรค และความรุนแรงของโรคหนังศีรษะอักเสบ โดยอาการที่พบได้บ่อยได้แก่

  • มีผื่นแดง คัน ที่หนังศีรษะ
  • มีรังแค หรือหนังศีรษะลอกเป็นขุย
  • ในบางรายอาจมีเส้นผมหลุดร่วง ร่วมด้วยได้
  • ในรายที่มีการติดเชื้อแทรกซ้อน อาจะเห็นเป็นตุ่มหนอง หรือมีน้ำเหลืองซึมได้

สาเหตุ

โรคหนังศีรษะอักเสบ ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่กระตุ้นให้โรคกำเริบ และในบางคนอาจจะมีปัจจัยกระตุ้นร่วมกันหลายอย่างได้ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อยได้แก่

  • สิ่งแวดล้อมและอากาศ เช่น อาการที่ร้อน ความชื้น ฝุ่นละออง และควัน
  • การติดเชื้อ เช่น เชื้อราหรือยีสต์บางตัว
  • ระดับฮอร์โมนที่แปรปรวน
  • ร่างกายที่อ่อนแอ เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด และการเจ็บป่วยไม่สบาย
  • พันธุกรรม
  • อาหารบางชนิด เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารในกลุ่มขนมปังที่มียีสต์เป็นส่วนประกอบ
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และของหมักดอง
  • การย้อมผมหรือทำสีผม

รักษา

การรักษาโรคหนังศีรษะอักเสบ จะมียาที่ใช้ทั้งยาทา ยาสระผม ไปจนถึงยากิน โดยการเลือกใช้ยาจะขึ้นกับความรุนแรงของโรคที่เป็น และปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรค โดยยาที่ใช้บ่อยๆมีดังนี้

  • ยาทา รักษา โรคหนังศีรษะ อักเสบ

ยาทาที่ใช้ในการรักษาโรคหนังศีรษะอักเสบ จะมีตั้งแต่ยาทาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ยาทาฆ่าเชื้อรา และยาทาลดการอักเสบกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้น้ำมันบำรุงผิวมาทาได้ การใช้ยาทาจะใช้ได้ทั้งในเคสที่เป็นน้อยไปจนถึงเป็นมาก ส่วนการเลือกใช้ยาแต่ละชนิด จะขึ้นกับความรุนแรงของโรค ปัจจัยที่กระตุ้น และผลข้างเคียงจากยาที่คนไข้ได้รับ

  • ยาสระผม รักษา โรคหนังศีรษะ อักเสบ

ยาสระผมที่ใช้ในการรักษาโรคหนังศีรษะอักเสบ จะมีด้วยกันหลายตัว เช่น Tar shampoo, Ketoconazole shampoo, Selenium Sulfide Shampoo, Zinc Pyrithione Shampoo, และ Ciclopirox Shampoo  เป็นต้น ยาสระผมแต่ละตัวจะมีกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน มีทั้งยาสระผมที่ช่วยฆ่าเชื้อรา และยาสระผมที่ช่วยลดการอักเสบของหนังศีรษะ  ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงและแชมพูมีกลิ่นฉุน

โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis)

โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) คือ โรคผิวหนังอักเสบ ที่มักมีอาการรังแค คันตามหนังศีรษะ ร่องจมูก และตกสะเก็ดเห็นเป็นขุยๆ พบประมาณ 3-5% ของประชากร

สาเหตุ

ในปัจจุบันทางการแพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของโรคเซบเดิร์มได้อย่างแน่ชัด แต่สันนิษฐานได้ว่าอาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยประกอบกัน ได้แก่

  • พันธุกรรม
  • ความเครียด
  • เชื้อราที่อาศัยอยู่บนผิวหนัง
  • สภาพอากาศที่เย็นและแห้ง
  • ภาวะแทรกซ้อนจากโรคบางชนิด หรือการใช้ยาบางชนิด

นอกจากนี้ยังมีโรค หรือปัจจัยเสี่ยงบางอย่าง ที่มีผลต่อการเกิดโรคเซบเดิร์มมากขึ้น ได้แก่

  • โรคพาร์กินสัน และภาวะซึมเศร้า
  • ผู้ที่มีปัญหาระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่อ่อนแอ เช่น ผู้ที่รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยมะเร็ง เป็นต้น
  • โรคตับอ่อนอักเสบ พิษสุราเรื้อรัง หรือการติดสุรา
  • โรคเบาหวาน
  • โรคลมชัก
  • โรคผิวหนังอักเสบโรซาเซีย โรคสะเก็ดเงิน
  • สิว
  • การเกา ครูดข่วน หรือการได้รับบาดเจ็บของผิวหน้า

อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการเกิดเซบเดิมไม่ได้มาจากการไม่รักษาความสะอาด หรือภาวะภูมิแพ้แต่อย่างใด โรคเซบเดิร์ม มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และพบได้บ่อยในช่วง 2 วัย คือ

  • เด็กอายุต่ำกว่า 3 เดือน
  • ผู้ใหญ่ในช่วงอายุ 40-70 ปี

อาการ

อาการของโรคเซ็บเดิร์มมีได้ตั้งแต่เป็นน้อยๆ เช่น รังแค ไปจนถึงอาการรุนแรงที่มีผื่นผิวหนังอักเสบทั่วตัว โดยอาการที่พบบ่อยได้แก่

  • หนังศีรษะมักมีอาการคัน มีผื่นแดงได้บ้าง มีสะเก็ดเป็นรังแคหนา หรือสะเก็ดสีเหลืองๆ ซึ่งผื่นแดงมีสะเก็ดพบได้บ่อยบริเวณไรผม แต่มักจะไม่ลามเกินไปกว่าไรผม ต่างจากโรคสะเก็ดเงินที่ผื่นแดงหนารวมถึงสะเก็ด สามารถลามเกินไรผมออกมาที่บริเวณหน้าผากและหนังศีรษะส่วนอื่นได้
  • ใบหูบริเวณหลังใบหู มักพบเป็น ผื่นแดง คัน ภายในรูหูด้านนอก และด้านหลังใบหู ผื่นแดงมักมีลักษณะเป็นสะเก็ดมันๆสีเหลือง
  • ใบหน้าและลำตัวมักพบในบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่หนาแน่น คือ หัวคิ้ว ระหว่างคิ้วทั้ง 2 ข้าง ซอกจมูก อก ไหล่ ลำตัวส่วนบน ซึ่งจะพบเป็นลักษณะผื่นแดง ขอบชัด มีสะเก็ดเป็นมันๆสีออกเหลือง
  • บริเวณอื่นๆบริเวณอื่นที่สามารถพบได้ แต่ไม่บ่อยนัก เช่น สะดือ รักแร้ และขาหนีบ เป็นต้น

การรักษา

การรักษาโรคเซ็บเดิร์ม ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาที่หายขาด โรคนี้หลังการรักษาสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ ส่วนความถี่ในการกลับมาเป็นซ้ำขึ้นกับหลายๆปัจจัยประกอบกัน ยาที่มีการใช้ในปัจจุบันได้แก่

  • กลุ่มยาสระผมเช่น แชมพูที่มีส่วนผสมของ Selenium sulfide, Ketoconazole Shampoo, Tar Shampoo, และ Zinc ยาสระผมในกลุ่มนี้ ใช้รักษาอาการเซบเดิร์มที่หนังศีรษะ
  • ยาทาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ใช้เพื่อลดการอักเสบของผิวหนัง ยาในกลุ่มนี้มีด้วยกันหลายตัว การเลือกใช้ขึ้นกับความรุนแรงของโรค และผิวหนังบริเวณที่ทายา สามารถใช้ทาได้ทั้งที่ใบหน้า และหนังศีรษะ
  • ครีมบำรุงผิวหากมีผิวแห้งสามารถใช้ครีมบำรุงผิว พวกมอสเจอไรเซอร์ เพื่อให้ความชุ่มชื้น
  • ยาทาลดการอักเสบกลุ่มอื่นๆที่ไม่ใช่สเตียรอยด์เช่น ยาทาในกลุ่ม Calcineurin inhibitor ยากลุ่มนี้มีฤทธิ์ลดการอักเสบของผิวหนัง สามารถใช้ทดแทนยาทาเสตียรอยด์ เพื่อลดผลข้างเคียงจากการใช้ยาทาสเตียรอยด์เป็นเวลานานๆ

เพราะฉะนั้นจึงควรใส่ใจ ดูแลหนังศีรษะและเส้นผมให้แข็งแรง และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างตรงจุดและปลอดภัยต่อสุขภาพของเรา โดยการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดอาการคัน ลดการเกิดหนังศีรษะแห้ง ลอก จากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเพิ่มความชุ่มชื้นแบบขั้นสุดด้วย CM Mild Shampoo ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหนังศีรษะมีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติด้วย ICHTHAMMOL ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆบนหนังศีรษะ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะด้วย PENTAVITIN จึงเป็นแชมพูที่มีประสิทธิภาพในการดูแลหนังศีรษะและเส้นผมได้อย่างตรงจุด

 

สั่งซื้อสินค้า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *